บำบัดน้ำด้วย คลอรีนผง 65% วิธีใช้และข้อควรระวังสำหรับมืออาชีพ
คลอรีน (Chlorine) เป็นสารเคมีที่คนไทยคุ้นเคยและนำมาใช้ประโยชน์ในหลายด้าน
ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าเชื้อโรค ทำความสะอาด หรือบำบัดน้ำ คลอรีนถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1774 โดยนักเคมีชาวสวีเดนชื่อ Carl Wilhelm Scheele ซึ่งได้ทำการสกัดคลอรีนจากแร่เกลือหิน คลอรีนเป็นสารที่มีกลิ่นฉุน มีคุณสมบัติเป็นตัวออกซิไดซ์ที่แรงและสามารถทำปฏิกิริยากับสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ได้หลายชนิด จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิตพลาสติก ยาฆ่าแมลง สารฟอกขาว และการบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น ในท้องตลาดทั่วไปจะมีการขายคลอรีนหลากหลายรูปแบบ แต่หนึ่งในผลิตภัณฑ์คลอรีนที่ได้รับความนิยมคือ คลอรีนผง 65% Calcium Hypochlorite ซึ่งเป็นสารประกอบของคลอรีนที่มีความเข้มข้นสูงถึง 65% (จากน้ำหนัก 100%) จึงมีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อโรคและเหมาะสำหรับนำไปใช้ในกระบวนการบำบัดน้ำ บทความในวันนี้ เราจะทุกท่านลงเนื้อหาเน้นหนักไปที่การบำบัดน้ำไปรับชมกันได้เลย
คุณสมบัติและองค์ประกอบของคลอรีนผง 65%
คลอรีนผง 65% หรือแคลเซียมไฮโปคลอไรท์ เป็นสารประกอบเคมีที่มีสูตรโมเลกุล Ca(OCl)2 ประกอบด้วยแคลเซียม ออกซิเจน และคลอรีน มีลักษณะเป็นผงสีขาวหรือครีม ไม่มีกลิ่น และละลายน้ำได้ดี เมื่อละลายน้ำจะปลดปล่อยคลอรีนอิสระออกมาในรูปของไอออนไฮโปคลอไรท์ (OCl-) ซึ่งเป็นสารออกซิไดซ์ที่มีเหมาะสมสำหรับใช้ในการฆ่าเชื้อโรคได้
นอกจากคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคแล้ว คลอรีนผง 65% ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ดังนี้
- มีความคงตัวสูง สามารถเก็บรักษาได้นานหากจัดเก็บอย่างถูกวิธี
- ละลายน้ำได้ดี ทำให้ง่ายต่อการนำไปใช้งาน
- ปลอดภัยต่อการใช้งานหากปฏิบัติตามข้อควรระวังเป็นอย่างดี
- ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับการใช้งานในระดับอุตสาหกรรม
กระบวนการบำบัดน้ำด้วยคลอรีนผง
การบำบัดน้ำโดยการใช้คลอรีนผง ที่มีความเข้มข้น 65% เป็นวิธีการที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบผลิตน้ำประปา สระว่ายน้ำ โรงงานอุตสาหกรรม และฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อโรคและทำลายสารอินทรีย์ในน้ำ โดยขั้นตอนการใช้คลอรีนผงบำบัดน้ำมีดังนี้
1. เติมคลอรีนผงลงในถังหรือระบบบำบัดน้ำโดยปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับปริมาตรของน้ำและระดับความสกปรกของน้ำ ทั่วไปจะใช้ประมาณ 1-5 กรัมต่อน้ำ 1,000 ลิตร
2. คนให้คลอรีนผงละลายและกระจายตัวในน้ำอย่างทั่วถึง เพื่อให้คลอรีนกระจายไปในทุกที่ และออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ทิ้งไว้ให้คลอรีนออกฤทธิ์เป็นเวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับระดับความสกปรกของน้ำด้วย)
4. ตรวจสอบปริมาณคลอรีนคงเหลือในน้ำ โดยใช้ชุดทดสอบหรือวิธีการทางเคมี เพื่อให้แน่ใจว่ามีปริมาณคลอรีนเหลืออยู่ในระดับที่เหมาะสม (ประมาณ 0.2-0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร)
5. หากปริมาณคลอรีนคงเหลือไม่เพียงพอ สามารถเติมคลอรีนผงเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม
จะเห็นได้ว่าการบำบัดน้ำโดยใช้คลอรีนนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องยาก
การบำบัดน้ำด้วยคลอรีนผงจึงเป็นหนึ่งในวิธีการที่ได้รับความนิยมที่สุดในการบำบัดน้ำจากสระว่ายน้ำ น้ำประปา เพราะข้อดีคือ ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคสูง ต้นทุนไม่แพง และควบคุมได้ง่าย
ข้อดีของการใช้คลอรีนผงในการบำบัดน้ำ
มีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อโรคและทำลายสารอินทรีย์
การใช้คลอรีนผง มีความเข้มข้นของคลอรีนถึง 65% จะมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และปรสิตต่างๆในน้ำ รวมถึงสามารถทำลายสารอินทรีย์ในน้ำได้ดี ช่วยลดความขุ่นและกลิ่นเหม็นของน้ำ จึงเหมาะสมจะใช้เป็นสารเคมีที่เอาไว้ใช้สำหรับการบำบัดน้ำ
ต้นทุนที่ประหยัด
เมื่อเทียบกับวิธีการบำบัดน้ำแบบอื่นๆ เช่น การใช้รังสียูวี หรือโอโซน คลอรีนผงมีราคาถูกกว่ามาก จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในระดับอุตสาหกรรมหรือการบำบัดน้ำในปริมาณมาก นอกจากนี้ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บและขนส่งได้อีกด้วย
การใช้งานที่สะดวกและง่ายต่อการควบคุม
คลอรีนผงสามารถละลายน้ำได้ง่าย จึงสะดวกต่อการนำไปใช้งาน นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมปริมาณคลอรีนคงเหลือในน้ำได้โดยการเติมคลอรีนผงเพิ่มลงไป ทำให้ง่ายต่อการปรับสภาพน้ำให้มีคุณภาพตามที่ต้องการ
ข้อควรระวังในการใช้คลอรีนผงบำบัดน้ำ
แม้ว่าคลอรีนผงจะเป็นถูกใช้กันอย่างแผร่หลายในการบำบัดน้ำ ไม่ว่าจะน้ำประปาทั่วไปที่เราใช้งาน หรือบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำ แต่ผู้ใช้ก็ต้องมีข้อควรระวังบางอย่างที่ควรจะรู้เอาไว้ ดังนี้
การใช้งานควรผสมคลอรีนผงกับน้ำอย่างระมัดระวัง
โดยค่อยๆ เทคลอรีนผงลงในน้ำ อย่าเทน้ำลงในคลอรีนผง เพราะอาจทำให้เกิดการกระเด็นของคลอรีนได้ ควรใช้คลอรีนในปริมาณที่เหมาะสม ตามคำแนะนำบนฉลาก การใช้คลอรีนมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพของผู้ใช้น้ำได้ และหลังการใช้งาน ควรล้างมือและร่างกายให้สะอาด เพื่อกำจัดคลอรีนที่อาจตกค้างออกไป
อันตรายจากการสัมผัสและการหายใจ
คลอรีนที่มีความเข้มข้นสูงเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรง การสัมผัสโดยตรงหรือหายใจเอาผงสารเข้าไปอาจทำให้ระคายเคืองหรือกัดกร่อนได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตราย เช่น ถุงมือ แว่นตานิรภัย และหน้ากากป้องกันฝุ่นสารเคมี ในระหว่างการใช้งาน ในระหว่างเจือจางสาร
การจัดการของเสียอย่างถูกวิธี
หลังจากใช้คลอรีนผงบำบัดน้ำแล้ว อาจมีของเสียที่เป็นพิษตกค้างอยู่ในน้ำ จึงจำเป็นต้องมีการจัดการของเสียอย่างถูกวิธีก่อนปล่อยน้ำทิ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การเก็บรักษาอย่างปลอดภัย
1. ควรเก็บคลอรีนผงในภาชนะที่ปิดสนิท ห่างจากความชื้น เนื่องจากคลอรีนจะทำปฏิกิริยากับความชื้นและก่อให้เกิดการกัดกร่อนได้ หากเปิดฝาเอาไว้ ครอรีนอาจจะละเหยไปหมด
2. สถานที่เก็บควรมีการระบายอากาศที่ดี เนื่องจากคลอรีนเป็นแก๊สที่มีกลิ่นฉุนและอาจก่อให้เกิดอันตรายหากสูดดมเข้าไป
3. ควรแยกเก็บคลอรีนผงห่างจากสารเคมีอื่นๆ เพื่อป้องกันปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้น จนทำให้เกิดไฟไหม้ได้
การใช้คลอรีนผง 65% ในเรื่องอื่นๆ
การใช้คลอรีนผง 65% Calcium Hypochlorite ในภาคเกษตรกรรม
ในภาคเกษตรกรรม คลอรีนผงถูกนำมาใช้ในหลายวัตถุประสงค์ เช่น
- ฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดโรงเรือน สถานที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืช
- ฆ่าเชื้อโรคในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น บ่อเลี้ยงกุ้ง เพื่อรักษาคุณภาพน้ำและป้องกันไม่ให้สัตว์น้ำติดเชื้อ
- ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในฟาร์มปศุสัตว์ เช่น คอกสัตว์ อุปกรณ์ที่ใช้กับสัตว์ เป็นต้น
- ใช้เป็นสารฆ่าเชื้อราในการเก็บรักษาผัก เก็บผลผลิต
- ทั้งนี้การใช้คลอรีนผงในภาคเกษตรกรรมจำเป็นต้องคำนวณปริมาณและอัตราส่วนที่เหมาะสม
การใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
คลอรีนแบบผงยังถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในโรงงานอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ยา และเวชภัณฑ์ เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ ช่วยรักษามาตรฐานความสะอาดและป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค และแน่นอนว่า คลอรีนแบบผงยังถูกนำมาใช้ในระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อกำจัดสารอินทรีย์และเชื้อโรคในน้ำเสียก่อนปล่อยทิ้งสู่แหล่งน้ำสาธารณะ
การใช้ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคทั่วไป
เนื่องจากคลอรีนมีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ จึงถูกนำมาใช้ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคทั่วไปในหลายสถานที่ เช่น
- โรงพยาบาล สถานพยาบาล เพื่อทำความสะอาดพื้นผิว อุปกรณ์ และฆ่าเชื้อโรคในบริเวณต่างๆ
- สถานที่สาธารณะ เช่น ห้องน้ำสาธารณะ สนามกีฬา เพื่อรักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อรับอัตรายจากคลอรีนผง
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสัมผัสคลอรีนผงเข้มข้นสูงโดยตรง
- ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนคลอรีนผงออกทันที เพื่อป้องกันการสัมผัสต่อเนื่อง
- ล้างบริเวณผิวหนังที่สัมผัสคลอรีนผงด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากๆ เป็นเวลานานอย่างน้อย 15 นาที เพื่อชะล้างคลอรีนออกจากผิวหนัง
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อคลอรีนผงเข้าตา
- ล้างตาด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากๆ อย่างต่อเนื่องนานอย่างน้อย 15 นาที โดยเปิดเปลือกตาให้กว้างที่สุด เพื่อชะล้างคลอรีนออกจากดวงตา
- พยายามไม่ขยี้ตาในระหว่างการล้าง เพราะอาจทำให้คลอรีนแทรกซึมลึกเข้าไปในดวงตามากขึ้น
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสูดดมคลอรีนผง
- รีบย้ายผู้ป่วยออกจากบริเวณที่มีคลอรีนผงปนเปื้อนไปยังบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์
- ถ้าผู้ป่วยหายใจติดขัด ให้ทำการช่วยหายใจโดยวิธี CPR
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อกินคลอรีนผงเข้าไป
- อย่าพยายามทำให้อาเจียน เพราะอาจทำให้ท่อหายใจถูกกัดกร่อนจากคลอรีนได้
- ให้ดื่มน้ำสะอาดเพื่อเจือจางคลอรีนผงที่กลืนเข้าไป แต่ห้ามดื่มมากเกินไปเพราะอาจทำให้อาเจียนได้
หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ไปแล้ว หลายๆท่านคงรู้จักกับมันมากขึ้นแล้วใช่หรือไหม สารเคมีที่มีกลิ่นฉุนๆ ที่เรามักจะได้กลิ่นตอนไปสระว่ายน้ำ มันก็คือ เจ้า คลอรีนผง 65% Calcium Hypochlorite เป็นสารเคมีที่นิยมถูกนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคและบำบัดน้ำ ใช้กันทั่วไปตามสระว่ายน้ำ ด้วยความเข้มข้นของคลอรีนอิสระถึง 65% จึงสามารถกำจัดแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และปรสิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยทำลายสารอินทรีย์และลดความขุ่นของน้ำได้ดี ไม่ว่าน้ำในสระจะแย่แค่ไหนก็เอาอยู่ การใช้คลอรีนผงมีข้อดีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่ประหยัด การใช้งานที่สะดวกและง่ายต่อการควบคุม รวมถึงประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคที่สูง จึงเหมาะสำหรับการนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรมหรือการบำบัดน้ำในปริมาณมาก
สำหรับผู้ที่สนใจจะซื้อคลอรีนผง 65% คุณภาพดี ในราคาที่เหมาะสม
สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ บริษัท พรภพเคมีคอล (2007) จำกัด
ตั้งอยู่เลขที่ 339, 339/1 หมู่ 9 ตำบลในคลองบางปลากด
อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ 10290
ต้องการใช้เคมีภัณฑ์ ติดต่อสอบถามได้เลย
เรามีประสบการณ์จำหน่ายเคมีภัณฑ์มายาวนานกว่า30ปี
จึงสามารถให้คำแนะนำทุกท่านได้ และจำหน่ายเคมีราคาถูก
📞 0-2816-2898-9, 0-2406-0623-4, 0-2816-2800